Don’t Eat The Marshmallow …Yet!
หยุด...อย่ารีบกิน “มาร์ชมาลโลว์” แล้วคุณจะประสบความสำเร็จทั้งงาน
เงิน และชีวิต
ทำไมคนที่ฉลาดเท่ากัน
บางคนจึงประสบความสำเร็จ แต่บางคนล้มเหลวคำตอบคือ...
เพราะ “วิธีคิดในการใช้ชีวิต” ที่แตกต่างกัน เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้แต่ละคน
มีบั้นปลายชีวิตที่แตกต่างกัน
การวิจัยครั้งสำคัญของ
มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา
นักวิจัยได้ทดลองปล่อยให้เด็กๆ
อยู่ในห้องตามลำพังและแจกขนม “มาร์ชมาลโลว์” ให้เด็กคนละก้อน
จากนั้นเสนอให้เด็กเลือกว่าจะกินมันเข้าไปทันทีหรือจะคอยอีกสิบห้านาที
ถ้าเด็กคนไหนคอยได้
พวกเขาก็สัญญาว่าจะให้ มาร์ชมาลโลว์แก่เด็กคนนั้นเพิ่มอีกก้อน
ซึ่งจากการทดลองพบว่า
เด็กบางคนกินขนมมาร์ชมาลโลว์เข้าไปทันที ในขณะที่บางคนเลือกที่จะคอย!
ผลวิจัยออกมาว่า
เด็กที่สามารถยับยั้งใจไม่กนขนมมาร์ชมาลโลว์ได้นั้น
มีผลการเรียนที่ดีกว่า
สามารถเข้ากับคนอื่นได้ดีกว่า และจัดการกับความ
เครียดได้ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้กินขนมมาร์ชมาลโลว์ก้อนแรก
จากการทดลองด้วยเวลาสั้นๆ
หลังจากผู้ใหญ่ออกไปจากห้องได้
กลุ่มเด็กที่สามารถห้ามใจตัวเอง
ไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์กลายเป็นผู้ที่ประสบ
ความสำเร็จในชีวิตมากกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่สามารถยับยั้งใจได้อย่างมากมาย
ความแตกต่างที่สำคัญของความสำเร็จและความล้มเหลว
มิได้อยู่ที่การทำงานหนักหรือมีสติปัญญาที่เหนือกว่า
แต่อยู่ที่ความสามารถในการ“ห้ามใจตัวเองให้ชะลอความพอใจลงก่อน หรือการรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
นั่นคือ คนที่ “ห้ามใจไม่รีบกิน มาร์ชมาลโลว์ จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า”
หนังสือเล่มนี้ใช้เรื่องเล่าง่ายๆ
ผ่านตัวละครสองคน คือ อาร์เธอร์ และโจนาธาน เพเชี่ยน
และได้สอดแทรก “วิธีคิดในการใช้ชีวิต” ที่ดี
ซึ่งบทเรียนจากหนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนวิธีคิด
และชีวิตของคุณได้อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่า
“การกระทำของคุณในวันนี้
สามารถส่งผลอันใหญ่หลวงต่ออนาคตของคุณ
ถ้าเพียงแค่ไม่รีบกิน “มาร์ชมาลโลว์” ของคุณในตอนนี้เท่านั้น
อาเธอร์ เป็นคนฉลาด สามารถแก้ปริศนาอักษรไขว้ในหนังสือพิมพ์ได้ในเวลาสามสิบนาที
สามารถวิเคราะห์เศรษฐกิจของลาตินอเมริกาได้ในเวลาครึ่งชั่วโมง
และคำนวณตัวเลขในหัวได้เร็วกว่าคนส่วนใหญ่ที่คำนวณโดยใช้เครื่องคิดเลข
แต่...เขาเป็นแค่คนขับรถ
โจนาธาน เพเชี่ยน ฉลาดพอๆ กับ อาร์เธอร์ ทำงานหนักเท่าๆ กัน
แต่โจนาธาน เป็นเศรษฐีพันล้าน ทำไม
โจนาธาน จึงนั่งอยู่บนเบาะหลังของรถยนต์คันใหญ่
ในขณะที่อาร์เธอร์
นั่งอยู่ด้านหน้าเป็นคนขับรถ
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีชีวิตที่แตกต่างกัน
และอะไรคือคำอธิบายความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว
โจนาธาน เพเชี่ยน
รู้สึกเหนื่อยและเครียดหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม
เมื่อเดินไปถึงรถคันหรู
เขาพบว่าคนรถกำลังนำ เบอร์เกอร์ บิ๊ก แม็ค เข้าปากเป็นคำสุดท้าย
อาร์เธอร์ นายกำลังกิน “มาร์ชมาลโลว์” อีกแล้ว เขากล่าวตำหนิ
หลังจากอาร์เธอร์เริ่มออกตัวรถ
โจนาธาน เพเชี่ยน ได้เริ่มต้นเล่าเรื่อง เกี่ยวกับทฤษฎี มาร์ชมาลโลว์
จากวันนั้นอาร์เธอร์ได้ซื้อขนมมาร์ชมาลโลว์วันละหนึ่งก้อนเก็บสะสมไว้ในบ้านพักของเขา
แม้จะรู้สึกหิว
เขาก็ไม่รู้สึกอยากกินมัน เขาต้องการเห็นว่าจะสามารถสะสมมันได้มากขนาดไหน
และเมื่อโจนาธาน เพเชี่ยน
ได้มอบเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เขา
อาร์เธอร์ได้นำขนมมาร์ชมาลโลว์ที่เขาสะสมไว้
ขายคืนให้กับร้านค้า
แล้วนำเงินเข้าบัญชีธนาคารไว้
หลังจากนั้นเขาก็ใช้วิธีเก็บสะสมขนมมาร์ชมาลโลว์
โดยการใส่รูปขนมปังมาร์ชมาลโลว์ลงในคอมพิวเตอร์
แผนการเปลี่ยนแปลงชีวิต 5 ขั้นตอน
1. คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
กลยุทธ์ใดที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้เพื่อไม่รีบกินมาร์ชมาลโลว์
ของคุณ
อะไรที่คุณมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลง
2. จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณคืออะไร
คุณจำเป็นต้องปรับปรุงอะไรบ้าง
แล้วคุณจะปรับปรุงให้ดีที่สุดได้อย่างไร
3. เป้าหมายหลักของคุณคืออะไร
เลือกมาอย่างน้อยห้าเป้าหมายและเขียนมันลงไป
หลังจากนั้นเขียนสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้น
4. แผนการของคุณคืออะไร
ให้เขียนมันลงไป
ถ้าคุณมองไม่เห็นเป้าหมาย คุณก็ไม่สามารถบรรลุมันได้
5. คุณจะทำอะไรบ้าง
เพื่อให้แผนการของคุณกลายเป็นการกระทำ
คุณมุ่งมั่นที่จะทำอะไรวันนี้พรุ่งนี้
อาทิตย์หน้า ปีหน้า
เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายของคุณ
ตามที่อาร์เธอร์ได้เรียนรู้จากเนื้อเรื่อง
คุณจะเต็มใจทำในสิ่งที่คนไม่ประสบความสำเร็จไม่เต็มใจทำได้อย่างไร
6. ความฝัน “มาร์ชมาลโลว์” ของคุณคืออะไร
คุณจะบรรลุถึงมันได้อย่างไร
ความมานะพยายามอย่าทิ้งกลางคัน