คุณ usdank ตั้งคำถามในพันทิปว่า “ปกติความหาหุ้นกันยังไงคะ กว่าจะเจอตัวที่คิดว่าดี” หลายคนก็ใช้หาเอาจากเว็ปพันทิปนี่เอง คุณ Bkbook ใช้ระบบการกรอง 3 ขั้น
แล้วประมาณการกำไรใน 4 ไตรมาสหน้า สุดท้ายซื้อในราคาที่เหมาะสม เข้าไปกรองได้ที่ http://www.siamchart.com เคุณ noteperfect เน้นดูผู้บริหาร ผู้บริหารซื้อก็ขอเกาะรถไปด้วย
โอกาสพลาดเท่ากับ 0% คุณ พีทีดี เน้นเก็งกำไร(สุทธิ)ถ้าเก็งถูกก็รวย คุณแม่ลูกสองนี่ไม่ธรรมดาเล่นหุ้นมา 35 ปี ก็เลยซื้อ IPO BBL เพราะย่าบอกว่า ปู่เคยให้เจ้าสัวรุ่นแรกกู้เงินไปเปิดธนาคารพอมารุ่นดิฉัน แม่บ้านบ้านเจ้าสัว ชอบมานั่งคุยที่บ้าน ต่อมา ง่ายๆค่ะ ไปนั่งมองกระดาน ไล่ทีละ sectors เลือกจาก A – Z เอาตัวที่ราคาสูงที่สุดในกลุ่มไว้ก่อน ดูด้วยว่ามีกำไรดี ไม่ขาดทุน ไม่มีหนี้ หรือหนี้ไม่สูง ช่วงเวลาที่ซื้อ ตอนที่คนอื่นๆหายไปเกือบหมดห้องค้า มาร์ต้องมาตามถึงบ้าน ช่วงเวลาที่ขายล้างพอร์ต …บ๊าย บาย ก็ตอนที่เห็นคนแปลกหน้าเต็มห้องค้า เอาใหม่ ก็ยังคงซื้อหุ้นที่ชาวบ้านไม่รู้จัก คือ กลุ่มเรือ ก็เก็บตัวที่ใหญ่ที่สุดใน sector คือ PSL ราคา 46 สตางค์ (ต่อมา เพิ่มทุน 1 ต่อ 1 ฟรี ราคา dilute เหลือ 23 สตางค์) พอขายหมด เล่นอีก 1 รอบ แล้วเลิกขาด เก็บหุ้นที่ลงลึกเกินควรแทน intuch 14.50 banpu 157 cpf 3 บาท แต่ตอนนั้น ไม่มีใครอยากซื้อ ขายกำไรนิดเดียว แล้วไม่ได้ตามซื้อคืนอีกเลย ทีนี้ เปลี่ยนกลยุทธ์ค่ะ ใช้เงิน 30% เก็บ valued stocks ที่ผลประกอบการและการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ไม่หวือหวา โดดขึ้น โดดลง บริษัท อยู่ยงคงกระพันคู่ตลาดหลักทรัพย์ หนี้สินต่ำมากถึงไม่มีหนี้ มีปันผลทุกปี ใช้เวลา 8 เดือน เพิ่งเก็บได้ไม่ถึง 1 ใน 4 ของเป้า เพราะหุ้นไม่มีสภาพคล่อง ราคาก็พุ่งขึ้นไปแล้ว ต้องซื้อแพงกว่าเดิิมมากมาย ตัวไหนลงมา ซื้อทันก็ซื้อ สงสัยว่าจะต้องกลับไปใช้วิธีเก่า คือรอ จนกว่าราคาหุ้นตัวนำในตลาดจะลงมากจจนไม่มีใครสนใจ ตอนนี้ หุ้นแพงหมดแล้ว ซื้อไปก็ไม่ได้อะไรเป็นกอบเป็นกำ |